นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพร “ Mahada Artocarpus Thailandica All in One Serum” เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางดูแลผิวที่ผลิตจากสารสกัดออกซีเรสเวอราทรอล (oxyresveratrol) ซึ่งเป็นสารสำคัญที่พบในแก่นมะหาด ผ่านกรรมวิธีการสกัดที่ควบคุมสารสำคัญให้มีความบริสุทธิ์ มีการควบคุมคุณภาพและทดสอบความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สารสกัดบริสุทธิ์จากมะหาดนี้มีฤทธิ์ทางชีวภาพหลากหลาย เช่น ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินใต้ผิวหนัง ต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ และได้มีการศึกษาประสิทธิภาพและความปลอดภัยในอาสาสมัคร พบว่ามีสรรพคุณช่วยลดริ้วรอย ทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใสเป็นธรรมชาติ เพิ่มความยืดหยุ่นและกระชับผิว มีความปลอดภัยและปราศจากสารเคมี สามารถใช้บำรุงเพื่อฟื้นฟูสุขภาพผิวได้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันเช้าและก่อนนอน
พบว่า สารออกซีเรสเวอราทรอลมะหาดนี้ เป็นต้น ได้ผ่านการวิจัยในหลายขั้นตอน ได้แก่ ในห้องทดลองและในอาสาสมัคร พบว่า สารนี้มีศักยภาพสูงในการนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง สมุนไพรมะหาดจัดเป็นพืชในสกุล Artocarpus วงศ์ Moraceae
“นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผสมสารสกัดออกซีเรสเวอราทรอลจากแก่นมะหาด ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พัฒนาขึ้นนี้ พร้อมจะถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ผู้สนใจ เพื่อนำไปผลิตเชิงพาณิชย์ เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ประเทศ ผลงานวิจัยดังกล่าวเป็นงานวิจัยต้นแบบในการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผสมสมุนไพร โดยใช้องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์อย่างครบวงจร เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับผู้ประกอบการ จึงเป็นการตอบสนองนโยบายรัฐบาลให้ประเทศไทยก้าวสู่ประเทศไทย 4.0” อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวในที่สุด
วันอังคาร ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เผยงานวิจัยต้นแบบในการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพรผสมสารสกัดออกซีเรสเวอราทรอล(oxyresveratrol) จากแก่นมะหาด ผ่านการประเมินด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยในอาสาสมัคร ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว ช่วยลดริ้วรอย ทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใสเป็นธรรมชาติ เพิ่มความยืดหยุ่น และกระชับผิว พร้อมจะถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ภาคเอกชนที่สนใจ เป็นนวัตกรรมใหม่สมุนไพรไทยที่รับรองสรรพคุณด้วยวิทยาศาสตร์การแพทย์
นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผลักดันให้มีการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์สมุนไพรด้วยวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากสมุนไพรไทยให้มีคุณภาพ มาตรฐานและความปลอดภัย สามารถต่อยอดองค์ความรู้ นำนวัตกรรมสมุนไพรไทยจากผลงานวิจัยไปเพิ่มศักยภาพแก่ผู้ประกอบการ โดยนำภูมิปัญญาเอกลักษณ์ไทย ส่งผลให้ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพรไทยที่ผ่านระบบการวิจัยสมัยใหม่ตามมาตรฐานสากลได้อย่างมั่นใจ ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มอบให้สถาบันวิจัยสมุนไพร พัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากธรรมชาติ โดยศึกษาวิธีการเตรียมสารสกัดออกซีเรสเวอราทรอล (oxyresveratrol) จากแก่นมะหาด ซึ่งมีการควบคุมสารสำคัญให้มีความบริสุทธิ์ ผ่านการควบคุมคุณภาพ และการทดสอบความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน นำมาพัฒนาสูตรตำรับเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางดูแลผิว และมีการศึกษาประสิทธิภาพ และความปลอดภัยในอาสาสมัคร
ผลการศึกษาวิจัยผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากมะหาดที่ได้พัฒนาในหลายรูปแบบ ได้แก่ เจลล้างหน้า, โลชั่นบำรุงผิว เซรั่ม, ครีมตอนเช้า, ครีมก่อนนอน และสารปรับสภาพผิว, สเปรย์น้ำแร่ และสารกันแดด พบว่า ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวขาวขึ้นดีที่สุด คือ เจลล้างหน้า (11%) รองลงมาคือ เซรั่ม (6%)ผลิตภัณฑ์ทำให้ผิวเรียบเนียนและลดริ้วรอยหางตาคือ เซรั่ม (16%) รองลงมาคือ ครีมกลางคืน (14%) ส่วนผลิตภัณฑ์ทำให้ผิวกระชับได้ดี คือ เซรั่ม (22%) รองลงมาคือ ครีมกลางวัน (18%) สเปรย์น้ำแร่ (17%) และผลิตภัณฑ์ทำให้ผิวเด้ง เพิ่มความยืดหยุ่นดีที่สุด คือ โทนเนอร์ (33%) รองลงมาคือเซรั่ม (36%) สเปรย์น้ำแร่ (33%) ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนี้ผ่านการประเมินด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในอาสาสมัครโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว
นายแพทย์สุขุม กล่าวต่ออีกว่า จากรายงานการศึกษาวิจัย ที่พบว่า สารออกซีเรสเวอราทรอลเป็นสารสำคัญที่พบในมะหาดนี้ มีฤทธิ์ทางชีวภาพหลากหลาย เช่น ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินใต้ผิวหนัง ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ เป็นต้น ได้ผ่านการวิจัยในหลายขั้นตอน ได้แก่ ในห้องทดลองและในอาสาสมัคร พบว่า สารนี้มีศักยภาพสูงในการนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง สมุนไพรมะหาดจัดเป็นพืชในสกุล Artocarpus วงศ์ Moraceae
“นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผสมสารสกัดออกซีเรสเวอราทรอลจากแก่นมะหาด ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พัฒนาขึ้นนี้ พร้อมจะถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ผู้สนใจ เพื่อนำไปผลิตเชิงพาณิชย์ เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ประเทศ ผลงานวิจัยดังกล่าวเป็นงานวิจัยต้นแบบในการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางผสมสมุนไพร โดยใช้องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์อย่างครบวงจร เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับผู้ประกอบการ จึงเป็นการตอบสนองนโยบายรัฐบาลให้ประเทศไทยก้าวสู่ประเทศไทย 4.0” อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวในที่สุด